06/06/2024

ทำไมรูปการทำงานแบบ Hybrid Working ถึงสำคัญ

benefit-of-hybrid-working

แม้ว่ารูปแบบการทำงานแบบ Hybrid Working จะถูกพูดถึงมานาน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเรื่องนี้ ก็คงหนีไม่พ้นวิกฤตโรคระบาด ที่ทำให้หลายองค์กรต้องปรับตัวกับการเว้นระยะห่างในการทำงาน Work from home จึงเป็นคำที่หลายคนได้ยินกันประจำจนถึงปัจจุบัน และวันนี้ เราจะพาไปดูสาเหตุว่าทำไมรูปแบบการทำงานนี้ถึงดีกับพนักงาน และองค์กรมากกว่าการทำงานแบบเดิม ๆ

การทำงานแบบ Hybrid Working คืออะไร

Hybrid Working คือ การทำงานแบบผสมผสานระหว่างการเข้ามาที่ออฟฟิศ และทำงานการทำงานแบบนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน คอนโด หรือสถานที่อื่น ๆ ที่สะดวกก็ตาม ผ่านการเชื่อมโยงระบบงานบนคลาวด์ ที่ทำให้ทุกคนสามารถแชร์ข้อมูลกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาพบหน้ากันเป็นประจำ ซึ่งช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับองค์กร และพนักงานในหลายด้านแบบคาดไม่ถึง

ทำไม Hybrid Working ถึงดีกับพนักงานและองค์กรมากกว่า

ถ้าหากจะพูดถึงข้อดีโดยตรง ก็ต้องบอกว่าการทำงานแบบ Hybrid Working ช่วยให้พนักงานประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า รวมไปถึงตัวองค์กรเองด้วย ที่อาจจะไม่ต้องเช่าพื้นที่ออฟฟิศเพื่อรองรับพนักงานที่มากขึ้น หากเปลี่ยนมาเป็นแบบ Hybrid Wokring แทน เพราะพื้นที่ขนาดเล็ก ก็อาจจะเพียงพอต่อการหมุนเวียนกันเข้ามาทำงานของพนักงานนั่นเอง ส่วนข้อดีโดยตรงที่ส่งผลต่อตัวพนักงาน และองค์กรในด้านการทำงาน จะมีดังนี้

เพิ่มขวัญกำลังใจและความสุขในการทำงาน

การได้ทำงานที่บ้าน ได้อยู่ใน Comfort Zone ของตัวเอง ย่อมทำให้พนักงานรู้สึกมีความสุขในการตื่นมาทำงานมากกว่า เพราะทำให้มีชั่วโมงการนอนที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงความเครียดจากการเดินทางที่จะหายไป สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นผลกระทบที่หลายองค์กรอาจมองไม่เห็น แต่เป็นเรื่องส่งผลต่อขวัญกำลังใจในการตื่นไปทำงานอย่างมาก โดยอ้างอิงจาก CompareCamp ที่มีการเก็บสถิติ และพบว่า องค์กรที่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน จะช่วยลดเรื่องการลาออกของพนักงานได้มากถึง 25%

เพิ่มประสิทธิภาพและการจดจ่อกับงานได้ดีกว่า

เมื่อพนักงานได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ และมีเวลาในการจัดสรรชีวิตดีขึ้น จากการไม่ต้องออกไปเผชิญรถติด รวมไปถึงการได้ทำงานในสถานที่ที่สบายใจ ไม่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนอย่างในออฟฟิศ ตามตัวอย่างการทำโพลของ Personnel Today ที่สำรวจจากพนักงาน 1,000 คน โดย 40% ของกลุ่มตัวอย่างเห็นพ้องต้องกันว่า เสียงรบกวนในออฟฟิศทำให้เกิดความเครียดขึ้นจริง และอีก 65% ยังลงความเห็นด้วยว่า เสียงรบกวน อาจทำให้งานไม่เสร็จตามกำหนดส่งเพราะไม่มีสมาธิ

ความสำคัญของ Hybrid Working กับสุขภาพจิต

และสิ่งสำคัญที่สุด ที่เป็นข้อดีของการทำงานแบบ Hybrid Working ก็คือเรื่องสุขภาพจิต ตามรายงานจากมหาวิทยาลัย Durham ประเทศอังกฤษ 12.7% ของการลาป่วยของพนักงาน มักเกิดขึ้นจากปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ความเครียดจากการเดินทางทั้งขาไป และขากลับ รวมไปถึงความเหนื่อยล้าจากการอยู่ในออฟฟิศที่มีเสียงรบกวน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก รูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น จึงช่วยลดปัญหานี้ลงไปได้

สรุปบทความ

การทำงานแบบ Hybrid Working ได้มีงานวิจัยรองรับ และสนับสนุนเป็นอย่างมาก เพราะพิสูจน์แล้วว่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้จริง อีกทั้งยังส่งผลให้พนักงานมีความสุขมากขึ้น และยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับพนักงาน รวมไปถึงองค์กรได้เป็นอย่างดี จึงไม่มีเหตุผลที่จะใช้รูปแบบการทำงานแบบเดิม ๆ อย่างการเข้าออฟฟิศเต็มเวลาอีกต่อไป โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกับระบบคลาวด์ ที่ช่วยประสานการทำงานให้ง่ายขึ้นจากทุกที่ อยากจะเรียกประชุมเมื่อไร ก็สามารถทำได้ทันที ขอเพียงแค่มีอุปกรณ์ในการทำงานที่ครบเท่านั้น

สำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์เสริมในการทำงาน ViewSonic คืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากได้จอมิเตอร์ทั้งแบบตั้งโต๊ะ และแบบพกพา ที่ตอบโจทย์การทำงานนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ