06/06/2024

หน้าจอถนอมสายตา ช่วยปกป้องดวงตาจากอาการตาล้าได้จริงไหม?

can-eye-care-screen-protect-eyes

ในปัจจุบัน เราต่างต้องใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้หน้าจอถนอมสาย กลายเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ทำร้ายดวงตา ซึ่งในบทความนี้ ViewSonic จะพาไปเจาะลึกถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดตาจากการใช้หน้าจอเป็นเวลานาน พร้อมแนะนำเทคโนโลยีที่ช่วยดูแลดวงตาของคุณ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

แสงสีฟ้าคืออะไร? และส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร?

แสงสีฟ้า (Blue Light) คือ แสงพลังงานสูงชนิดหนึ่ง (HEV light) ที่แผ่ออกมาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งคุณสามารถสังเกตเห็นแสงสีฟ้าอมม่วงขณะใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย แม้ว่าแสงนี้จะดูไม่เป็นอันตราย แสงสีฟ้าจะยับยั้งการผลิตเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนควบคุมการนอนหลับ ส่งผลให้หลับยาก และนอนไม่สนิท ภาวะนี้ส่งผลกระทบต่อสมาธิ ระดับพลังงาน น้ำหนัก และสุขภาพโดยรวมในระยะยาว

อาการเมื่อยล้าจากการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล (Digital Eye Strain) คืออะไร?

อาการเมื่อยล้าจากการใช้สายตาดิจิทัล หรือที่เรียกว่า Computer Vision Syndrome (CVS) หมายถึง กลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับดวงตาและการมองเห็น เช่น ตาเมื่อย ตาแห้ง ตาแดง มองเห็นภาพเบลอ ปวดหัว ปวดเมื่อยคอ หรือไหล่ เป็นต้น ซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลเป็นเวลานาน รวมถึงการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลในสภาพแวดล้อมที่มีแสงไม่เหมาะสม, ระยะห่างในการมองไม่เหมาะสม, องศาในการมองที่ไม่เป็นธรรมชาติ, หน้าจอกระพริบ, ความสว่างหน้าจอมากเกินไป และคอนทราสต์หน้าจอไม่เพียงพอ

เทคโนโลยีถนอมสายตาคืออะไร?

เทคโนโลยีถนอมสายตา คือการผสมผสานคุณสมบัติและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าไว้ในจอคอมพิวเตอร์ เพื่อลดอาการเมื่อยล้าสายตา, ลดความไม่สบายทางสายตาและร่างกาย รวมถึงการใช้งานหน้าจอที่ถูกหลักสรีรศาสตร์ ซึ่งเทคโนโลยีถนอมสายตานี้ มีตั้งแต่ฟิลเตอร์กรองแสงสีฟ้า, เทคโนโลยีลดการกระพริบ ไปจนถึงการปรับท่าทางการทำงานที่เหมาะสม, ระยะห่างสายตากับหน้าจอที่พอดี, อัตราการรีเฟรชภาพ และการลดภาพเบลอ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงาน ความยืดหยุ่น และความสบายในการใช้งานเพิ่มขึ้น

จอถนอมสายตา ช่วยปกป้องดวงตาจากอาการเมื่อยล้าอย่างไร?

ในยุคดิจิทัลนี้ จอสำหรับถนอมสายตากลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยปกป้องดวงตา เนื่องจากผลสำรวจจาก GWI ชี้ว่า ผู้คนวัย 16 ถึง 64 ปี ใช้เวลากับหน้าจอเฉลี่ยวันละ 6 ชั่วโมง 37 นาที ซึ่งอุปกรณ์ดิจิทัลเหล่านี้กลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการทำงาน การเรียนรู้ การสื่อสาร และความบันเทิง ทำให้การลงทุนในจอถนอมสายตา เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการดูแลสุขภาพดวงตาที่ดี และป้องกันอาการเมื่อยล้าจากการใช้อุปกรณ์ดิจิทัล ที่ไม่ได้ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับและการทำงานของร่างกายโดยรวม

โดยเทคโนโลยีของจอถนอมสายตา มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยปกป้องดวงตาของคุณจากแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายได้ดังนี้

- ฟังก์ชันลดแสงสีฟ้า (Blue Light Reduction)

ฟังก์ชันกรองแสงสีฟ้า ช่วยลดการปล่อยแสงสีฟ้าพลังงานสูงจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการรับแสงสีฟ้านาน ๆ และกระตุ้นการผลิตเมลาโทนิน (Melatonin) ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยการลดแสงสีฟ้านี้สามารถทำได้ทั้งหมด 2 วิธี

  1. การใช้ซอฟต์แวร์ เป็นการกรองแสงสีฟ้าออกจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยการเปลี่ยนโทนสีขาวบนหน้าจอที่จากเดิมจะเกิดจากแสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ให้กลายเป็นโทนสีเหลืองอมส้มที่สบายตาขึ้น
  2. การใช้แผ่นกรองแสงสีฟ้าแบบติดตั้ง ซึ่งเป็นจอที่มีฟังก์ชันลดแสงสีฟ้าในตัว สามารถปกป้องสายตาได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเปิดหรือปิดการใช้งาน นอกจากนี้ การใช้แผ่นกรองแสงสีฟ้ายังไม่ทำให้หน้าจอดูเหลือง จึงช่วยปกป้องสายตาได้โดยไม่กระทบต่อสีของภาพที่แสดงออกมา

การมีฟังก์ชันลดแสงสีฟ้า ไม่เพียงแค่ช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้าย แต่ยังช่วยเพิ่มความสบายตาโดยรวม ทั้งก่อน-ขณะ-หลังการใช้งานหน้าจอ ส่งผลให้การทำงานและการพักผ่อนบันเทิงดียิ่งขึ้น

- เทคโนโลยี Flicker-Free

จอทั่วไปจะใช้การปรับความสว่างด้วย Pulse-Width Modulation (PWM) ซึ่งจะทำงานโดยการเปิดและปิดไฟแบ็คไลท์ของหน้าจออย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดอาการหน้าจอกระพริบ และแม้ว่าการกระพริบนี้จะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อสายตา ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าและปวดหัวได้ โดยเทคโนโลยี Flicker-Free หรือเทคโนโลยีป้องกันการกระพริบจะมีการปรับความสว่างด้วย Direct Current modulation (DC) ซึ่งจะให้แสงสว่างที่คงที่ และไม่ขึ้นอยู่กับการปรับระดับความสว่าง

- สามารถปรับความสว่างและคอนทราสต์ได้

การตั้งค่าความสว่างและคอนทราสต์ เป็นฟังก์ชันสำคัญของจอถนอมสายตา เพราะการปรับระดับความสว่างและคอนทราสต์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าสายตาที่เกิดจากหน้าจอสว่างหรือมืดเกินไป นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนความสว่างและคอนทราสต์ให้ตอบโจทย์กับการทำงาน และสภาพแวดล้อมโดยรอยได้อย่างอิสระอีกด้วย

- การเคลือบป้องกันแสงสะท้อน (Anti-glare Coating)

สำหรับผู้ที่ใช้เวลามากมายหน้าจอคอมพิวเตอร์ จอประเภทถนอมสายตาที่มาพร้อมการเคลือบป้องกันแสงสะท้อน (Anti-glare Coating) ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้วิธีอื่น ๆ เพราะนอกจากการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนจะช่วยลดการสะท้อนและแสงรบกวนจากแหล่งกำเนิดแสงภายนอกได้แล้ว ยังทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น และลดอาการเมื่อยล้าของสายตาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้า

จอถนอมสายตาช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากดิจิตอลอย่างไร

นอกเหนือจากการเลือกใช้จอถนอมสายตาแล้ว การมีนิสัยในการดูแลดวงตาที่ดีต่อสุขภาพดวงตาก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพื่อช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากดิจิตอลโดยสามารถทำได้ดังนี้

  • พักเบรกเป็นประจำ: พักสายตาเป็นประจำ โดยละสายตาจากหน้าจอเป็นระยะ ๆ
  • ปรับแสงสว่างให้เหมาะสม: ปรับแสงสว่างในห้องให้เหมาะสม ไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป
  • ระยะห่างจากหน้าจอที่เหมาะสม: นั่งห่างจากหน้าจอในระยะที่เหมาะสม
  • กระพริบตาบ่อย ๆ: ฝึกกระพริบตาบ่อย ๆ เพื่อให้มีความชุ่มชื้น
  • บริหารสายตา: ทำการบริหารสายตาเป็นประจำ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อตาคลายเครียด

สรุปบทความ

อาการเมื่อยล้าตาจากการใช้อุปกรณ์ดิจิทัล (Digital eye strain) เป็นปัญหาที่ควรให้ความใส่ใจ เพราะในปัจจุบันที่เราต้องใช้เวลากับหน้าจอเป็นเวลานาน ดังนั้น การลงทุนในจอถนอมสายตา (eye care monitor) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีต่าง ๆ ตั้งแต่ ฟิลเตอร์ลดแสงสีฟ้า (blue light filter) และ เทคโนโลยีลดการกระพริบ (reduced flicker technology) ไปจนถึง การปรับความสว่างได้ตามต้องการ (customizable brightness settings) และ การออกแบบตามสรีรศาสตร์ (ergonomic design) ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานหน้าจอดเป็นเวลานาน และทำให้คุณสามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างสบายตา